วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

อันตรายจากสารระเหย






ในปัจจุบัน ผู้ติดยาเสพติดได้หันไปหาตัวอื่นที่ราคาถูกกว่า หาได้ง่ายกว่า มาทดแทนผงขาว นั่นคือ "สารระเหย" ชนิดต่าง ๆ เช่น ทินเนอร์ผสมสี น้ำมันเบนซิน น้ำมันไฟแช็ก น้ำมันก๊าด น้ำมันแล็กเกอร์ กาวชนิดต่าง ๆ น้ำมันชักเงา ยาทาเล็บ ตลอดจนสเปรย์ชนิดต่าง ๆ โดยหารู้ไม่ว่า เป็นการหนีเสือปะจระเข้ เพราะสารเสพติดแบบใหม่นี้ มีพิษร้ายแรงกว่าเฮโรอีนมากมายหลายสิบเท่า เพราะในขณะที่เฮโรอีนทำให้สุขภาพทั่วไปทุรดโทรมก็จริง แต่ก็ไม่ได้ทิ้งความพิการถาวรไว้ให้แก่อวัยวะใด ๆ ในร่างกาย และหากเลิกเสพ พักฟื้นไม่นาน สุขภาพก็จะแข็งแรงกลับสู่สภาพปกติได้ แต่พวก "สารระเหย" นี้ หากเสพติดจนติด และเป็นเวลานาน จะทำให้ร่างกายเกิดพยาธิสภาพที่ถาวร เป็นความพิการที่ไม่สามารถแก้ไขให้กลับคืนสู่ปกติได้อีก เช่น มะเร็งในเลือด สมองพิการ ตับพิการ และที่ร้ายกว่านี้ คือพิการทางกรรมพันธุ์ด้วย คือ ไปทำให้โครโมโซม ซึ่งเป็นตัวถ่ายทอดกรรมพันธุ์ไปสู่ลูกหลาน และกระทบกระเทือนถึงความมั่นคงของประเทศชาติอย่างยิ่ง พวกนักโทษที่ถูกศาลตัดสินจำคุกในความผิดต่าง ๆ และเป็นผู้ติดเฮโรอีน เมื่ออยู่ในคุก ผงขาวก็ยิ่งหายาก และราคายิ่งแพงขึ้น เป็นที่ทราบกันว่า นักโทษพวกนี้จะแย่งกันไปทำงานแผนกช่างไม้ ช่างทาสี ช่างเครื่องยนต์ เพราะจะได้มีโอกาสได้ใกล้ชิด และใช้พวกน้ำมันระเหยพวกนี้ นอกจากนี้ ยังมีพวกเด็กนักเรียน มัธยมต้นและปลาย มีแนวโน้มว่า มีการเสพติดยานี้กันอย่างแพร่หลาย อายุเฉลี่ยระหว่าง 8-10 ปี มักจะเสพกันเป็นกลุ่มในวัด ห้องที่ลับตาคน โดยใช้สำลี ผ้าเช็ดหน้าหรือเสื้อยืด ชุบทินเนอร์จนชุ่ม แล้วสูดดมเข้าปอด หมุนเวียนส่งต่อไปจนเมามาย เป็นสิ่งที่น่าเวทนาอย่างยิ่ง ผู้ใหญ่ที่เห็นหรือทราบมา ก็ไม่ค่อยใส่ใจ เพราะคิดว่าคงไม่มีอันตรายร้ายแรงอะไร หารู้ไม่ว่ามันร้ายเสียยิ่งกว่าผงขาวหลายสิบเท่า บางคนอาจฉีดสเปรย์เข้าตู้เสื้อผ้าหรือตู้ลับ แล้วยื่นหน้าเข้าสูดดม และเห็นว่ายาเสพติดพวก "น้ำมันระเหย" นี้ มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของใช้แทบทุกครัวเรือน หรือหาซื้อได้ทุกหนทุกแห่งด้วยราคาถูก ประกอบทั้งทุกชนิดมีกลิ่นหอมที่ประชาชนทั่วไป จำนวนไม่น้อยชอบกลิ่นของมัน จึงทำให้เสพติดได้ง่าย ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยเฉพาะเด็ก ๆ นักเรียนทั้งชายและหญิง และประชาชนทั่วไป ยังไม่ทราบถึงพิษภัยอันร้ายแรงของมัน จึงเห็นเป็นเรื่องเล็ก "สารระเหย" เมื่อสูดดมเข้าไปในกระเพาะอาหาร ก็จะถูกดูดซึมเข้าไปในหลอดโลหิต ไหลเวียนไปสู่อวัยวะต่าง ๆ และส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และไปออกฤทธิ์โดยตรง ด้วยการไปกดสมองส่วนกลาง ดังนั้น พอสูดดมไม่กี่นาทีก็จะมีอาการเมา ลักษณะของคนเมา "สารระเหย" นั้น คล้ายคนเมาเหล้า คือ เวียนศีรษะ ตาพร่า เวลาดูอะไรจะเพ่งจ้องเหมือน "ตาขวาง" ลิ้นไก่สั้น เดินโซเซ ง่วงซึม จิตใจครึกครื้น เห่อเหิม คึกคะนอง (อาจทำให้เกิดพฤติกรรมที่อุกอาจ เช่น ประกอบอาชญากรรมได้) สติปัญญาทึบ มีหูแว่ว ภาพหลอน ประสาทหลอน ความคิดแบบหลงผิด และหากสูดดมต่อไปจะค่อย ๆ หมดสติ จนถึงขั้นโคม่า และตายได้ สาเหตุตายนั้น ส่วนมากเนื่องจากสูดดมยาจนเกินขนาด ยานี้ไปกดสมองส่วนกลาง โดยเฉพาะไปกดที่ศูนย์ควบคุมการหายใจ ทำให้หยุดหายใจ นอกจากนี้ ยานี้ไปออกฤทธิ์ต่อหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นเร็ว และไม่เป็นจังหวะ พิษของ "สารระเหย" ต่อร่างกาย หากเสพเป็นเวลานาน ๆ จะเกิดพิษร้ายต่อร่างกายได้ 2 แบบ

1. พิษระยะเฉียบพลัน

2. พิษระยะเรื้อรัง






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น